กลุ่มทวงหนี้โหดเหี้ยม โทรข่มขู่กระบี่ตำรวจ ลากสารวัตรจ่ายหนี้ ทำไม่ได้ฆ่าชูห้องครัว อ้างมีชื่อค้ำเงินกู้ยืม
ตอนวันที่ 6 ก.ย. นักข่าวแถลงการณ์ว่า ที่ห้องสำหรับประชุม สภ.เมืองจังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดจังหวัดศรีสะเกษ พันตำรวจเอกเทวดาปกป้อง แสงสว่างกล้า รอง ผบกรัมภ.จว.จังหวัดศรีสะเกษ ได้เรียกสัมมนาด่วน พันตำรวจเอกณัฐกิติ์ เจริญก้าวหน้าเกษสุวรรณ์ ผู้กำกับการสภ.เมืองจังหวัดศรีสะเกษ พร้อม พันตำรวจโทเสกสรรค์ อุทโท รอง ผู้กำกับการซักถาม พันตำรวจโทสราวุฒิ คำน้อย รอง ผู้กำกับการสืบสาว ข้าราชการ ตำรวจชุดสอบปากคำ เพื่อติดตามคดีในกรณีที่ ด.ต.ณรงค์แขน สุหร่าย ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานคุ้มครองปกป้องและก็กำจัด สภ.โพนเขวา อำเภอเมือง จังหวัดจังหวัดศรีสะเกษ ได้นำหลักฐานคลิปเสียงเดินทางเข้าแจ้งเหตุร้องเรียนกับ ร้อยตำรวจเอกเจมรัก โสสอน พงส.สภ.เมืองจังหวัดศรีสะเกษ ว่าถูกผู้ร้ายที่ใช้โทรศัพท์เลขหนึ่งโทรศัพท์เข้ามาที่โทรศัพท์เคลื่อนที่ส่วนตัว ขณะอยู่ที่พักในเขตเทศบาลเมืองจังหวัดศรีสะเกษ เขตพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.เมืองจังหวัดศรีสะเกษ โดยขู่ว่า ให้ไปติดตามตัว พันตำรวจโทวุฒิอำนาจ ทรัพย์สมบัติ สารวัตร สภ.โพนเขวา ให้นำเงินมาจ่ายและชำระหนี้ข้างในวันนี้ให้ได้ ถ้าไม่ประพฤติตามจะเอาปืนมายิโลภคอยกปากและก็ฆ่าให้ตายทั้งยังผัวแล้วก็เมีย
ซึ่งจากเรื่องดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว พันตำรวจเอกเทวดาปกป้อง ได้สำรวจแล้วพบว่า เบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวข้างต้น ได้โทรมาจาก จังหวัดจังหวัดเชียงราย ก็เลยได้มอบหมายให้ข้าราชการ ตำรวจชุดสอบสวนฝีมือเยี่ยมของ สภ.เมืองจังหวัดศรีสะเกษ ไปติดต่อประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวเพื่อติดตามล่าตัวฆาตกรรายนี้แล้ว

ด.ต.ณรงค์มือ สุหร่าย ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานคุ้มครองปกป้องและก็ทำลายล้าง สภ.โพนเขวา อำเภอเมือง จังหวัดจังหวัดศรีสะเกษ พูดว่า เมื่อตอนเวลาบ่ายวันที่ 5 กันยายน ได้นำหลักฐานคลิปเสียงเดินทางเข้าแจ้งเหตุร้องเรียนกับพนักงานที่ทำหน้าที่ในการสอบสวน สภ.เมืองจังหวัดศรีสะเกษ ว่า ขณะที่อยู่ที่พักส่วนตัวในเขตเทศบาลเมืองจังหวัดศรีสะเกษ ได้ถูกผู้ร้ายที่ใช้โทรศัพท์เลขลำดับหนึ่ง โทรศัพท์เข้ามาที่โทรศัพท์มือถือส่วนตัว โดย นางสาวศมลพัทธ์ ศรีคำภา เมียซึ่งเป็นทนาย ที่ทำการทนายศมลภัทธ์ ศรีคำภา เป็นคนรับสายคนแรก ถูกผู้ร้ายพูดจาไม่สุภาพ พร้อมทั้งดุบิดา-แม่ บรรพบุรุษเสียหาย โดยไม่ฟังอีกข้างเลย เมียก็เลยยื่นโทรศัพท์ให้ ซึ่งผู้ร้ายได้กล่าวถึงว่า มีสารวัตรตำรวจนายหนึ่ง ใน สภ.เดียวกันไปกู้หนี้สินออนไลน์ แล้วก็ได้ใช้เบอร์โทรของตนเอง เป็นบุคคลที่สามารถติดต่อได้กรณีมีเหตุจำเป็น ซึ่งไม่รู้เรื่องมาก่อน

กับขู่บังคับให้ไปลากคอสารวัตรนายดังกล่าวข้างต้นมาจ่ายและชำระหนี้ปัจจุบันนี้ ถ้าหากไม่ทำตามอย่างหรือเจ้าตัวไม่ยินยอมมาชำระหนี้จะเอาปืนยิงทิ้งให้หมดอีกทั้งครอบครัว ทั้งยังยังพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามว่าไม่เคยหวาดกลัวตำรวจ จะเอาปืนกรอกปากยิงทิ้งเมื่อใดก็ได้ ทำให้เกิดความรู้สึกอีกทั้งครอบครัวทราบสึดไม่ปลอดภัยแล้วก็หวาดกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อชีวิตแล้วก็สินทรัพย์ ซึ่งพื้นฐาน ได้ถามไถ่ไปยังสารวัตร จากที่ฆาตกรเอ่ยชื่อ ได้คำตอบว่า ไม่รู้เรื่องและไม่เคยเป็นหนี้เป็นสินอะไร ด้วยเหตุผลดังกล่าว ก็เลยได้เดินทางมาฟ้องร้องร้องเรียนเพื่อติดตามตัวฆาตกรมาดำเนินคดีโดยชอบด้วยกฎหมาย
พันตำรวจโทวุฒิศักดา พูดว่า รับรองว่า ไม่เคยไปกู้หนี้สินออนไลน์ หรือยืมเงินจากกลุ่มเงินกู้ยืมนอกระบบ หัวข้อนี้สามารถตรวจดูได้ การจุดเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา ได้ไปฟ้องร้องกับพนักงานที่ทำหน้าที่ในการสอบสวน สภ.เมืองจังหวัดศรีสะเกษ ไว้เป็นหลักฐานแล้ว แล้วก็จะฟ้องร้องโดยชอบด้วยกฎหมายถัดไป เพราะทำให้ตนได้รับความทรุดโทรมเสียหายความโด่งดังอย่างมาก

พันตำรวจเอกเทวดาคุ้มครอง พูดว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลทางสารวัตรที่ถูกกล่าวเกี่ยวโยงรับรองว่า มิได้ไปขอกู้เงินอะไร แม้กระนั้นโปรไฟล์ที่เอามาเสนอก็ไม่ใช่รูปของ พันตำรวจโทวุฒิศักดา ก็จะเป็นในลักษณะว่ารู้ผิด คงจะจำผู้แสดงไม่ถูกซึ่งได้มีการพิจารณาไปแล้วว่า หลักฐานที่รับรองว่าเขากู้ได้ส่งรูปมาให้มองปรากฏว่า ไม่ใช่รูปของ พันตำรวจโทวุฒิศักดา เป็นคนละคน ก็เลยน่าจะเป็นรูปแบบของโทรมาทวงเงินผิดตัว น่าจะเป็นอย่างงั้น ซึ่งได้สั่งให้กระทำสืบสวนแล้วก็สั่งให้ชุดไต่สวนตามล่าเพศผู้ที่โทรมาขู่ข้าราชการ ตำรวจเพื่อพิสูจน์รู้รวมทั้งจะได้ฟ้องโดยชอบด้วยกฎหมายถัดไป